ผักเคลทำเมนูอะไรได้บ้าง? รวมไอเดียความอร่อยจากเคลที่มีดีกว่าที่คิด

51

เมื่อพูดถึงผักที่มีสารอาหารแน่น ๆ และเป็นมิตรกับร่างกายอย่างแท้จริง ผักเคล คือหนึ่งในชื่อที่ปรากฏบนสุดของลิสต์อยู่เสมอ ความนิยมของผักเคลไม่ได้เกิดจากเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นผลสะสมของการที่คนจำนวนมากได้สัมผัสถึงประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ระบบขับถ่ายดีขึ้น ผิวพรรณดูสดใส หรือแม้แต่การลดคอเลสเตอรอลในเลือด

ทำไม “ผักเคล” ถึงกลายเป็นขวัญใจสายสุขภาพ
ทำไม “ผักเคล” ถึงกลายเป็นขวัญใจสายสุขภาพ

ผักเคลมีจุดเด่นตรงที่มี วิตามิน A, C และ K สูงกว่าผักทั่วไปหลายเท่า อีกทั้งยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์ แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการชะลอวัยและการฟื้นฟูร่างกายระดับเซลล์ ด้วยพื้นฐานนี้เองที่ทำให้ผักเคลสามารถนำไปปรุงในเมนูได้หลากหลาย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเสียคุณค่าทางอาหาร

สมูทตี้ผักเคล เครื่องดื่มสีเขียวที่มาแรงไม่ตกเทรนด์

หากพูดถึงเมนูที่พาผักเคลเข้าสู่ใจคนเมืองได้ง่ายที่สุด คงหนีไม่พ้น สมูทตี้ผักเคล เครื่องดื่มสีเขียวที่ทั้งสดชื่น อิ่มเบา และให้พลังงานดีต่อสุขภาพ สมูทตี้ประเภทนี้มักผสมผักเคลกับผลไม้หวานธรรมชาติ เช่น กล้วย แอปเปิล หรือสับปะรด เพื่อกลบรสเขียวของผักและเพิ่มความกลมกล่อม

ข้อดีของการดื่มสมูทตี้ผักเคลคือ ร่างกายจะได้รับไฟเบอร์แบบเต็ม ๆ เพราะไม่ผ่านการแยกกากเหมือนน้ำผักคั้น อีกทั้งยังดูดซึมได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อดื่มในช่วงเช้า สมูทตี้จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และเติมวิตามินที่จำเป็นก่อนเริ่มวันใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สลัดผักเคล เมนูเบา ๆ ที่กินจริงจังได้ทุกวัน

อีกเมนูที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ สลัดผักเคล ด้วยรสชาติอ่อน ๆ และใบที่เคี้ยวมันกำลังดี ทำให้ผักชนิดนี้เหมาะกับการนำมาทำสลัดอย่างยิ่ง เทคนิคสำคัญคือต้อง “นวดใบผัก” ก่อนใช้งาน เพื่อให้เส้นใยนุ่มลงและลดกลิ่นเขียวที่อาจไม่พึงประสงค์สำหรับบางคน

เมื่อผสมกับวัตถุดิบอื่น เช่น อะโวคาโด แอปเปิล ถั่วต่าง ๆ หรือผลไม้แห้ง ก็จะได้สลัดที่ทั้งอร่อยและอิ่มอยู่ท้อง ที่สำคัญคือสามารถเติมพลังงานได้โดยไม่เพิ่มไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน เหมาะมากกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรืออยาก “กินแล้วไม่รู้สึกผิด”

ผักเคลในซุป เมนูอุ่นใจที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร

ถ้าคุณชอบอะไรที่อุ่น ๆ และรู้สึกผ่อนคลาย “ซุปผักเคล” คือคำตอบที่น่าสนใจมาก ผักเคลสามารถนำมาต้มร่วมกับหัวหอม แครอท มันฝรั่ง และถั่วขาวในน้ำสต๊อกผัก เพื่อให้ได้รสกลมกล่อมที่ละมุนลิ้น เมื่อนำมาปั่นรวมกันจะได้ซุปสีเขียวอ่อนที่มีเนื้อสัมผัสนวลเนียน ไม่ต่างจากซุปครีมทั่วไปแต่ไม่มีไขมันจากนม

ข้อดีของซุปแบบนี้คือย่อยง่าย เหมาะกับวันที่คุณอยากพักระบบย่อยจากอาหารหนัก หรือกำลังอยู่ในช่วงล้างพิษและพักร่างกาย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้ ผักเคล ได้อย่างคุ้มค่าและอบอุ่นใจ

ผักเคลอบกรอบ ของว่างแสนดีที่กินเพลินกว่าขนมถุง

ถ้าคุณกำลังมองหาของว่างที่ไม่ทำให้รู้สึกผิด และยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลองหันมาทำ “เคลชิปส์” หรือผักเคลอบกรอบ วิธีทำแสนง่าย เพียงนำใบผักเคลล้างสะอาด พรมน้ำมันมะกอก โรยเกลือเล็กน้อย แล้วอบในเตาอบที่อุณหภูมิต่ำประมาณ 10-15 นาที

ผลลัพธ์คือ ผักเคลที่กรอบกรุบ ให้ความรู้สึกเหมือนกินขนมขบเคี้ยวแต่ไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมันทรานส์ และมีไฟเบอร์เต็ม ๆ เหมาะสำหรับพกไปกินระหว่างวัน หรือติดไว้ในลิ้นชักทำงานแทนของว่างที่แฝงแคลอรีโดยไม่รู้ตัว

ผักเคลกับพาสต้า เพิ่มมิติใหม่ให้มื้ออิตาเลียนแบบเฮลตี้

ในเมนูพาสต้า เราอาจคุ้นกับผักโขมหรือผักโขมบด แต่จริง ๆ แล้ว ผักเคล ก็เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในซอสเพสโต้หรือซอสครีมเบา ๆ ผักเคลที่ถูกลวกพอสุก จะยังคงสีเขียวสด เพิ่มความกรุบเบา ๆ และมอบรสชาติที่ซับซ้อนมากขึ้น

การผสมผักเคลลงในพาสต้าช่วยเพิ่มไฟเบอร์ ลดการดูดซึมไขมัน และให้พลังงานที่ไม่ทำให้รู้สึกหนักท้องเกินไป นี่คือทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากละทิ้งอาหารอร่อยแต่ยังใส่ใจสุขภาพในทุกคำที่กิน

ขนมปัง แพนเค้ก และขนมอบจากผักเคลก็ทำได้

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ผักเคลสามารถนำไปผสมในแป้ง เพื่อทำเป็นเบเกอรีได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นขนมปังโฮลวีต แพนเค้ก หรือมัฟฟิน การใส่ผักเคลบดละเอียดลงไปในแป้งช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับขนมอบโดยไม่เปลี่ยนรสชาติมากนัก และยังเพิ่มสีสันเขียวธรรมชาติที่น่าสนใจอีกด้วย

เหมาะสำหรับคนที่อยากเสิร์ฟผักให้เด็ก ๆ โดยไม่ให้รู้ตัว หรืออยากหาทางแทรกสารอาหารในของหวานแบบไม่ฝืน

บทสรุป: ผักเคลคือวัตถุดิบที่เปลี่ยนได้ทั้งจานและชีวิต

จากสมูทตี้ยามเช้า ไปจนถึงขนมอบตอนเย็น ผักเคล คือวัตถุดิบที่ไม่ได้จำกัดแค่ในกลุ่มคลีนหรือสายสุขภาพเท่านั้น แต่มันเปิดโอกาสให้คุณได้สนุกกับการทำอาหารได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องแลกสุขภาพกับรสชาติ

หากคุณกำลังมองหาวิธีง่าย ๆ ในการเริ่มต้นดูแลตัวเอง ผักเคลคือคำตอบที่ทั้งเรียบง่ายและทรงพลัง เพราะมันไม่ได้เป็นแค่ผักสีเขียว แต่คือแรงบันดาลใจให้คุณ “เลือก” สิ่งดี ๆ เข้าสู่ร่างกายได้ในทุกวัน